หน้าเป็นกระ มีวิธีรักษาอย่างไร
รอยกระบนใบหน้ากระจายบริเวณ
ดั้งจมูกและโหนกแก้มเป็นศัตรูอันร้ายกาจทำให้ผิวเกิดรอยด่างดำ ผิวหน้าแลดูไม่ขาวกระจ่างใส รอยกระบนใบหน้ารักษาให้ลบเลือนได้ยากและใช้เวลานาน กระมีหลายชนิดซึ่งแต่ละชนิดมีวิธีในการดูแลรักษา
แตกต่างกันไป ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการวินิจฉัยว่า
เป็นกระประเภทใดซึ่งแพทย์จะเลือกใช้
วิธีรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม
โดยทั่วไปกระแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1. กระตื้น หรือกระแดด มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลกระจายบนใบหน้าและลำคอ ป้องกันได้โดยการหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง จะช่วยให้กระสีอ่อนลงและจางหายไปได้ ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไปเป็นประจำเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นอีก การรักษาอาจใช้ครีมบำรุงทาเพื่อให้กระจางลงเร็วขึ้น หรือรักษาโดยใช้ยาทาและรักษาด้วยเลเซอร์ ตามแต่แพทย์เห็นสมควร
2. กระลึก มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเทา กระจายบริเวณโหนกแก้ม การรักษายากกว่ากระตื้น ควรทาครีมบำรุงเป็นประจำ ทายาลดการสร้างเม็ดสี การพอกหน้าผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้และการใช้เลเซอร์ที่ออกฤทธิ์กับเม็ดสี
สามารถเห็นผลการรักษาตั้งแต่ครั้งแรก
3. กระเนื้อ มีลักษณะเป็นตุ่มสีน้ำตาลหรือเป็นสีดำ พบบริเวณใบหน้าและลำคอ วิธีการรักษาโดยการยิงเลเซอร์เพื่อเลือกตัดเฉพาะกระเนื้อ ไม่สร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อโดยรอบ ไม่มีเลือดออกและไม่ต้องเย็บแผล กระเนื้อจะหลุดออกหมดภายในครั้งแรกที่ทำการรักษา
4. กระลึกหรือปาน เป็นจุดสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้ม พบบ่อยบริเวณโหนกแก้ม หน้าผากและจมูก กระลึกเป็นพันธุกรรมซึ่งยังไม่มีวิธีป้องกัน หรือหลีกเลี่ยง ต้องรักษาโดยการยิงเลเซอร์
กระลึกหรือปานอาจทำการรักษามากกว่า 1 ครั้งจึงจะหายขาด เพราะถ้าจะตัดเอารากออกในครั้งเดียวอาจทำให้เกิด
แผลเป็นได้ จึงอาจทยอยตัดซ้ำหลายครั้งเพื่อเลี่ยงการเกิดแผลเป็น หลังการรักษาควรเลี่ยงไม่ให้บริเวณแผลถูกน้ำ
ประมาณ 24 ชั่วโมงและทายาจนครบ 7 วัน สะเก็ดแผลจะหลุดออก ห้ามแกะสะเก็ดโดยเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เกิด
รอยแผลเป็นได้ สีผิวบริเวณที่รักษาหายจะกลมกลืนกับผิวปกติภายในไม่กี่วัน
ผลข้างเคียงจากการตัดกระลึก คือ รอยคล้ำหลังจากการเลเซอร์ จากนั้นจะค่อยกลืนไปกับผิวปกติภายใน 2-3 เดือน
สิ่งสำคัญที่สุดในการรักษากระแต่ละชนิด คือ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
ผลการรักษาจึงจะออกมาดี ปลอดภัยและจะไม่กลับมาเป็นอีก โดยเฉพาะกรณีที่ใช้เลเซอร์ควรดูแลบริเวณแผลที่ทำการรักษา
ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะไม่มีผลข้างเคียงจากการรักษา หากปฏิบัติไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
ในชีวิตประจำวันมีโอกาสเผชิญกับแสงแดดเสมอ ควรหลีกเลี่ยงและหาทางป้องกัน ทาครีมกันแดด สวมหมวกและกางร่มเพื่อไม่ให้ผิวที่ขาวกระจ่างใสเกิดกระ รอยหมองคล้ำและจุดด่างดำจนต้องกลับมาให้แพทย์รักษาซ้ำอีก