Facial treatment 

Body treatment 

-ลดแขน ลดขา ลดหน้าท้อง 

-ลดไขมัน นวดสลายเซลลูไลท์

-กำจัดขนถาวร แขน ขา 

-กระชับสัดส่วน

-ดูดและสลายไขมัน Laser Lipo

 

 

-ผลักวิตตามิน บำรุงผิวหน้า หน้าใส

-ยกระชับ ปรับรูปหน้า

-รักษาหลุมสิว ริ้วรอย แผลเป็น

-เลเซอร์หน้าใส ฝ้า กระ จุดด่างดำ

-รักษาสิว สิวอักเสบ สิวอุดตัน

-ลดริ้วรอย เติมเต็ม ด้วย botox filler

-นวดหน้า dermalogica

-กำจัดขนถาวร หนวด เครา

-ร้อยไหม ปรับหน้าเรียว ยกกระชับ

 

 

 

 Anti-Aging

-IV Anti-oxidant ให้อาหารผิว

-IV Blink White สวยจากภายใน

-Liver detox ล้างพิษตับ

-Chalation Therapy ฟื้นฟูระบบร่างกาย

-Meso Fat body and Face

-ฉีดหน้าใส สลายสารพิษบนใบหน้า

-ฝังเข็ม ครอบแก้ว

-Hair Tranplant ปลูกผมถาวร

 

 

 

© 2014 by SC SKINCLUB. 

ASOKE TOWER Floor 1, Soi Asoke, Sukhumvit 21ตึก อโศกทาวเวอร์ ชั้น 1 ด้านหลัง ธนาคาร SCB ,ซอย อโศก ,ถนน สุขุมวิท 21

ปรับรูปหน้า

097-236-0548 , 02-664-3801

  • face
  • line3_edited_edited
  • instageram_edited
  • you_edited

Email : scskinclub@gmail.com

  • HOME

  • FACE & BODY TREATMENT

  • ANTI-AGING

  • PRODUCT

  • PROMOTION

  • REVIEW

  • KNOWLEDGE

  • CONTACT

  • More

    วิธีรักษาฝ้าคืนใบหน้าเนียนใส

           ฝ้าบนใบหน้าเป็นปัญหาที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย รักษายากหรือง่ายขึ้นอยู่กับความตื้นและลึก ฝ้าตื้นมีโอกาสรักษาให้รอยฝ้าจางลงและสภาพผิวดีขึ้นได้ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นหลายอย่างที่ทำให้เกิดฝ้า เช่น แสงแดด และฮอร์โมนในร่างกาย เพราะเมื่อหยุดรักษา ฝ้าจะกลับมาอีก

           ฝ้าระดับตื้น ในระดับหนังกำพร้าหรือผิวหนังชั้นนอก ฝ้ามีสีน้ำตาลขอบชัด ส่วนใหญ่มักจะมีฝ้าบริเวณโหนกแก้ม รักษาหายได้โดยใช้เวลาไม่นาน โดยใช้ยาทารักษาฝ้าที่มีส่วนผสมของยาบางชนิด เช่น ไฮโดรคิวโนน (Hydroquinone) ซึ่งต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ เพราะเป็นสารที่มีข้อเสียและควรระวัง

           การลอกฝ้าโดยใช้ยา TCA หรือครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA ทำให้ฝ้าที่เป็นเรื้อรังมานานสีจางลงได้ใน 30-90 วัน ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและผลักดันเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทน ทำให้ผิวเนียนนุ่นและกระจ่างใสมากขึ้น แต่ผิวหน้าจะไวต่อแสงแดด จึงต้องทาครีมกันแดดป้องกันผิวให้ดี เพื่อไม่ให้มีโอกาสกลับมามาเป็นฝ้าอีก

          ฝ้าแบบลึก เกิดความผิดปกติในระดับชั้นผิวหนังแท้ การใช้ครีมรักษาฝ้าและยากันแดดช่วยให้ดีขึ้นได้แต่รักษายากกว่าฝ้าชนิดตื้น การรักษาบริเวณที่ลึกประกอบด้วยหลายวิธี เช่น การขัดผิวหนัง การลอกผิว การกรอผิว และการใช้เลเซอร์ ทำให้การรักษาส่งผลเร็วขึ้น ซึ่งมีแนวทางดังนี้

           1. การรักษาฝ้าด้วยเครื่องไอออนโตโฟเรซิส (Iontophoresis) และเครื่องโฟโนโฟเรซิส (Phonophoresis) ใช้กระแสไฟฟ้าระดับอ่อนผลักยาหรือวิตามินซึมผ่านเข้าสู่ผิวหนังเพื่อให้ฤทธิ์ในการรักษาได้ดีขึ้น ตัวยามักจะเป็นเจลวิตามินซี, เจลอาร์บูติน

    และเจลโคจิก หลังการรักษาอาจมีอาการระคายเคืองบ้าง แต่จะมีผลข้างเคียงน้อย การรักษาด้วยวิธีนี้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะช่วย

    ให้ฝ้าจางลงทีละน้อย

           2. วิธีการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion) ช่วยขจัดเซลล์ชั้นหนังกำพร้าให้ฝ้าแบบตื้นหลุดออกเร็วขึ้น ร่วมกับยาทา เช่น กรดวิตามินเอ และวิตามินซี เพื่อช่วยลดรอยดำจากฝ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อาจก่ออาการระคายเคืองบ้างและต้องทำซ้ำหลายครั้ง

           3. การลอกหน้าด้วยความเย็นจัด (Cryotherapy) เป็นเทคนิคที่ใช้รักษาโรคผิวหนังหลายชนิด โดยทำให้เซลล์ผิวหนังและเซลล์สร้างเม็ดสี ถูกทำลาย ทำให้ผิวเป็นรอยขาวขึ้น รอยผิวหนังอย่างฝ้าจะใช้ไนโตรเจนเหลวทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเป็นรอยฝ้าจาง ๆ อาจต้องใช้เวลาพ่นทุก 4-6 สัปดาห์

           4. การใช้เข็ดผลักตัวยาเข้าไปใต้ผิวเพื่อรักษาฝ้า เรียกว่า เมโสเทอราปี (Mesotherapy) โดยใช้เข็มเล็ก ๆ ฉีดลึกลงไป 1-2 มิลลิเมตร ระยะห่างไม่เกิน 1 เซนติเมตร บริเวณที่มีรอยฝ้าและกระ ควรฉีดซ้ำทุก 1-2 สัปดาห์ ช่วยให้ฝ้าดูจางลง

           การรักษา ฝ้า กระ และรอยด่างดำต้องใช้เวลา แต่ละคนมีการสนองตอบต่อการรักษาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความลึก ระดับความเข้มของฝ้า และปัจจัยการกระตุ้นให้เกิดฝ้าที่แตกต่างกัน

     

           

     

           ที่สำคัญ คือ หลังจากทายาหรือการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ การป้องกันเป็นเรื่องสำคัญ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากรังสียูสีก่อนออกแดด 30 นาทีทุกครั้ง ควรรับประทานผักและผลไม้ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อเสริมสร้างผิวใหม่ให้แข็งแรงและลดการเป็นฝ้าซ้ำ

    เรียบเรียงและเขียนโดย SC Skinclub (ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใด)

         Mr.SC

    BeautyGuru