top of page

ลดความมันของผิวหน้า สาเหตุของสิว

          หน้ามันสิวขึ้นง่ายเป็นปัญหาของคนหน้ามันโดยธรรมชาติที่แก้ไม่ตก ยิ่งล้างหน้าบ่อยมากขึ้น ร่างกายยิ่งผลิตน้ำมันออกมาเพื่อรักษาผิวพรรณให้คงสภาพที่ชุ่มชื้น ก่อให้เกิดปัญหาสิวตามมา วิธีการจัดการกับปัญหาผิวมัน

จะช่วยลดสิวอุดตันและสิวอักเสบได้ผล ช่วยให้ผิว

เนียนใสได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งวิธีลดความมันบนใบหน้าสามารถทำได้โดย

          วิธีการแรก คือ การล้างหน้าอย่างถูกต้อง โดยล้างขจัดเครื่องสำอางและความสกปรกวันละ 2 ครั้ง เช้าและ

ก่อนนอน โดยเลือกผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าหรือสบู่ล้างหน้าที่มีความอ่อนโยนต่อผิว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่ากดด่างหรือค่าpH 5.5 และปราศจากแอลกอฮอล์ หลังล้างหน้าเสร็จควรเช็ดหน้าอย่างเบามือเพื่อไม่กระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมัน

ออกมามากขึ้น

          โฟมล้างหน้าที่ช่วยลดปัญหาหน้ามันและมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวมักจะมีสารประกอบออกฤทธิ์ต่อไปนี้ Benzol Peroxide Beta-hydroxy Acid Glycolic Acid และ Salicylic Acid เป็นต้น

 

 

          หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้วใช้โทนเนอร์เป็นประจำเพื่อควบคุมความมันบนใบหน้า ควรเลือกชนิดไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และอะซีโตนซึ่งทำให้หน้าแห้งและกระตุ้นให้ผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น โดยใช้สำลีชุบโทนเนอร์ลูบทั่วใบหน้าและลำคอ 2 ครั้ง เช้าและเย็น

          นอกจากนี้ควรเลือกครีมบำรุงผิวที่ปราศจากน้ำมัน ครีมกันแดดแบบน้ำแบบออยล์ฟรี รวมถึงเลือกผลิตภัณฑ์

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ชนิดบางเบา เจลหรือเซรั่มบำรุงผิวที่มีความเข้มข้นน้อยกว่าแบบครีม เพื่อลดอาการหน้ามันได้ดีขึ้น

          วิธีการที่สอง คือ การใช้มาสก์หรือครีมที่มีสาร AHA , BHA จะเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว สามารถกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ช่วยดูดซับความมัน ทำความสะอาดรูขุมขนและกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกอย่างรวดเร็ว การพอกหน้าทำประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีขายทั่วไปหรือสลับไปใช้สมุนไพรธรรมชาติบ้างอย่างเช่น มะนาว มะเขือเทศหรือโยเกิร์ต

          ระหว่างวันอาจใช้กระดาษซับมันค่อย ๆ กดซับบนผิวหน้าหรือใช้ทิชชู่เปียกสำหรับเช็ดหน้าที่มีส่วนผสมของ Glycolic Acid หรือ Salicylic Acid ช่วยชะลอการทำงานของต่อมไขมันบนใบหน้าก็ได้

          สำหรับคนที่มีปัญหาผิวหน้ามันและเกิดสิวอักเสบมาก แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานยาร่วมด้วย ยากลุ่มกรดวิตามินเอ มีชื่อทางเคมีว่า ไอโซเตรติโนอิน (Isotretinoin) หรือ เรติโนอิก แอซิด (Retinoic Acid) มีสรรพคุณด้านลดการทำงานต่อมไขมันและต้านการอักเสบ เพื่อการรักษาสิวอักเสบเรื้อรัง เป็นยาควบคุมพิเศษซึ่งต้องจ่ายโดยมีใบสั่งยาและต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเท่านั้น เพราะยากลุ่มกรดวิตามินเอที่ใช้รับประทานมีผลข้างเคียงรุนแรง เป็นอันตรายต่อภาวะการตั้งครรภ์โดยตรง อาจทำให้ผู้ที่สวมคอนแทคเลนส์เกิดการระคายเคืองตา ตาแห้ง ประสิทธิภาพการมองเห็นในตอนกลางคืนลดลง

          แสงแดด ความสกปรก ฝุ่นละออง มลภาวะต่าง ๆ ล้วนเป็นสาเหตุของอาการผิวหน้ามันและสารพัดสิวบนใบหน้า ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน เกิดรอยด่างดำ ควรแก้ไขต้นเหตุให้ตรงจุดและเรียนรู้วิธีดูแลให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง

เรียบเรียงและเขียนโดย SC Skinclub (ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใด)

     Mr.SC

BeautyGuru

bottom of page